1.
|
เมื่อรถยนต์เด็กเล่นคันหนึ่ง ให้เคลื่อนที่อย่างอิสระตามทางพื้นเอียง
กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลาเป็นวินาทีกับระยะทางเป็น
เซนติเมตร เป็นดังนี้
จากกราฟจงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) เมื่อเวลาผ่านไป 2 วินาทีรถยนต์เด็กเล่นแล่นได้ระยะทาง
เพิ่มขึ้นเท่าไร
- ระยะทาง เพิ่มขึ้น 0.6 เชนติเมตร
|
|
2) เมื่อรถยนต์เด็กเล่นแล่นได้ทาง 3.8 เซนติเมตร ใช้เวลากี่วินาที
- ใช้เวลา 5 วินาที
|
| 3) เวลาตั้งแต่ 0 วินาที ถึง 2 วินาที
รถยนต์เด็กเล่นแล่นได้ระยะทางเพิ่มขึ้นเท่าไร
- ระยะทาง 0.6 เชนติเมตร |
| 4) เวลาตั้งแต่ 2 วินาที ถึง 4 วินาที
รถยนต์เด็กเล่นแล่นได้ระยะทางเพิ่มขึ้นเท่าไร
- ระยะทางที่ 4 วินาที เท่ากับ 2.4 เชนติเมตร
- ระยะทางที่ 2 วินาที เท่ากับ 0.6 เชนติเมตร
รถยนต์เด็กเล่นแล่นได้ระยะทางเพิ่มขึ้น
= 2.4 - 0.6 เซนติเมตร
= 1.8 เซนติเมตร
|
|
5) จากคำตอบที่ได้ในข้อที่ 3 และ 4 นักเรียนคิดว่าอัตราเร็วใน
แต่ละช่วงเวลามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
เวลาทั้งสองช่วงมีการเคลื่อนที่ของรถเด็กเล่น
เวลาตั้งแต่ 0 วินาที ถึง 2 วินาที อัตราเร็วกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- ได้ระยะทาง 0.6 เซนติเมตร
อัตราเร็ว = ระยะทาง เวลา
= 0.6 2
= 0.3 เซนติเมตร/ วินาที
และเมื่อ 2 วินาที ถึง 4 วินาที มีอัตราเร็ว เพิ่มมากกว่าเดิม
- ได้ระยะทาง 1.8 เซนติเมตร
อัตราเร็ว = ระยะทาง เวลา
= 1.8 2
= 0.9 เซนติเมตร/ วินาที
|
|
6) จากกราฟ และคำตอบที่ได้ในข้อ 5 ให้อธิบายคร่าว ๆเกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลง ของระยะทางที่รถยนต์เด็กเล่นเคลื่อนที่
ในระยะเวลาต่าง ๆ
จากกราฟ เมื่อเวลา มากขึ้นรถ มีอัตราเร็วเพิ่มขึ้น ตามไปด้วย
ทำให้ได้ระยะทางการเคลื่อนที่ของรถเด็กเล่นมากขึ้น
|
2.
|
กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความยาวของด้านและพื้นที่
ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นดังนี้
จากกราฟ จงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีด้านยาว 1.5 เซนติเมตร จะมีพื้นที่เท่าใด
- มีพื้นที่เท่า 2.25 ตารางเซนติเมตร
|
|
2) รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีพื้นที่ 16 ตารางเซนติเมตร
จะมีความยาวของด้านเท่าใด
- มีความยาวของด้านละ 4 เซนติเมตร
|
|
3) ให้นักเรียนเปรียบเทียบคำตอบในข้อ 1) และข้อ 2) ที่อ่านได้
จากกราฟ กับคำตอบที่ได้จากสมการ
เมื่อ x แทนความยาวของด้านของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและ
y แทนพื้นที่ ของสี่เหลี่ยมจัตุรัส
- เมื่อความยาวของด้านมากขึ้น เท่าไร ก็จะทำให้
พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีค่าเพิ่มขึ้น
|
|
4) จากกราฟ ให้นักเรียนอธิบายคร่าว ๆ เกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเมื่อความยาว
ของด้านเปลี่ยนไป
ในช่วง ความยาว ด้าน 0 - 2 พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
มีอัตราการเพิ่มขึ้น
ในช่วง ความยาว ด้าน 3 - 4 พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
มีอัตราการเพิ่มขึ้น มากกว่าช่วง ที่ผ่านมา
เมื่อความยาวด้านเพิ่ม พื้นที่เพิ่มหลายเท่า จากช่วง 0 - 2
|
3.
|
กราฟต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลาเป็นวินาที
กับระยะทางที่จรวดอยู่สูงจากพื้นดินเป็นเมตร
จากกราฟ จงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) จรวดขึ้นไปได้สูงสุดกี่เมตรในเวลากี่วินาที
1,800 เมตร ใช้เวลา 3 วินาที
|
|
2) หลังจากจรวดไปแล้ว 2 วินาที จรวดขึ้นไปได้สูงกี่เมตร
1,600 เมตร
|
|
3) จรวดอยู่สูง 1,000 เมตร หลังจากยิงขึ้นไปได้นานเท่าใด
ใช้เวลา 1 วินาที
|
|
4) จากราฟให้นักเรียนอธิบายอย่างคร่าว ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
ของระยะทางที่จรวดอยู่สูงจากพื้นดินในช่วงเวลาต่าง ๆ
- จากจุดเริ่มต้น ยังไม่มีการยิง
เป็น ศูนย์ทั้งระยะทาง และเวลาที่ใช้
- เวลา 0 ถึง 3 วินาที จรวดเคลื่อนที่
ได้ความสูงซึ่งเป็นระยะทางเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- จุด 1,800 เมตร ที่ 3 วินาที
เป็นจุดสูงสุด และเป็นจุดวกกลับ
- เวลา 3 ถึง 6 วินาที
จรวดเคลื่อนที่ตกลงมาตาแรงดึงดูดของโลก
ได้ความสูงซึ่งเป็นระยะทางลดลง
- จุด 0 เมตร ที่เวลา 6 วินาที่
เป็นจุดจรวด ตกถึงพื้น
|
4.
|
เมื่อเราไม่สบายมีอาการเจ็บป่วยไม่มาก เรามักจะรับประทานยาเอง
ตามปรกติร่างกายของคนเราจะมีกระบวนการการขับยาที่รับประทาน
เข้าไปให้ออกจากร่างกายในรูปของ เมตาบอลิซึม
และการขับถ่ายของเสีย
ในทางการแพทย์ เรียกระยะเวลาที่ปริมาณยาในร่างกายลดลง
ครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิมว่าครึ่งชีวิต (Half-life)ของยา
กราฟต่อไปนี้ แสดงความสัมพันธ์ ระหว่างเวลาหลังรับ
ประทานยา และปริมาณของยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม
ในร่างกายมนุษย์
จากกราฟจงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) หลังจารับประทานยาพาราฌซตามอล 500 มิลลิกรัม
เข้าไปแล้ว 1 ชั่วโมง จะมีปริมาณยาคงเหลือในร่างกายเท่าใด
- ปริมาณยาคงเหลือในร่างกาย 375 กรัม
|
|
2) ครึ่งชีวิตของยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัมคิดเป็นเวลาเท่าใด
- ครึ่งชีวิตของยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม
คิดเป็นเวลา 2.30 ชั่วโมง
|
|
3) ถ้าเอกสารกำกับการใช้ยาระบุว่า สามารถรับประทานยานี้
ได้ทุก ๆ 6 ชั่วโมง เมื่อเวลาผ่านไป 6 ชั่วโมง
จะมีปริมาณยาคงเหลืออยู่ในร่างกายเท่าใด
- ปริมาณยาคงเหลืออยู่ในร่างกาย 98 กรัม
|
|
4) ถ้าเวลาผ่านไป 6 ชั่วโมงแล้วรับประทานยาอีก 500 มิลลิกรัม
ต่อจากนั้น อีก 2 1/2 ชั่วโมงจะมียาเหลืออยู่ในร่างกายเท่าใด
ปริมาณยาเหลืออยู่ในร่างกาย
= ปริมาณยาที่เหลือจากครั้งแรก (เวลา 6 + 2.5 = 8.5 ชั่วโมง)
+ ปริมาณยาที่เหลือจากครั้งที่สอง (เวลา 2.5 ชั่วโมง)
= 48 + 220 = 268 มิลลิกรัม
|
|
5) ถ้ายาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัมที่รับประทานเข้าไป
จะต้องใช้เวลาประมาณ 5 ครึ่งชีวิต ยาที่เหลือจึงจะไม่ก่อให้
เกิดผลข้างเคียง นักเรียนคิดว่าต้องใช้เวลานานเท่าใด
ครึ่งชีวิตครั้งที่ 1 มีปริมาณยาเหลืออยู่ 250.00 มิลลิกรัม
ครึ่งชีวิตครั้งที่ 2 มีปริมาณยาเหลืออยู่ 125.00 มิลลิกรัม
ครึ่งชีวิตครั้งที่ 3 มีปริมาณยาเหลืออยู่ 62.50 มิลลิกรัม
ครึ่งชีวิตครั้งที่ 4 มีปริมาณยาเหลืออยู่ 31.25 มิลลิกรัม
ครึ่งชีวิตครั้งที่ 5 มีปริมาณยาเหลืออยู่ 15.62 มิลลิกรัม
เมื่อดูจากกราฟ ครึ่งชีวิตครั้งที่ 5 ประมาณ 14 ชั่วโมง
สรุป
ยาที่เหลือจึงจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงจะต้องใช้เวลา
ประมาณ 5 ครึ่งชีวิต ต้องใช้เวลานาน 14 ชั่วโมง
|
|
6) จากกราฟให้นักเรียนอธิบายอย่างคร่าว ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
ของปริมาณยา พาราเซตามอล 500 มิลลิกรัมในร่างกายในช่วงเวลา
ต่าง ๆ หลังจากรับประทานยา
หลังจากรับประทานยาแล้วปริมาณยาจะถูกขับจากร่างกาย
เมื่อเวลามากขึ้น ยา พาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม
ในเวลา 2.30 ชั่วโมง ร่างกายขับออกมา ครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ได้รับ
และ ใช้เวลากำจัดจากร่างกายอย่างน้อย 16 ชั่วโมง
|
5.
|
กราฟข้างล่างแสดงความสามารถในการละลาย ของโพแทสเซียม
และโซเดียมคลอไรด์ ในน้ำ 100 กรัม ณ. อุณหภูมิห้องต่าง ๆกัน
จากกราฟจงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) ที่อุณหภูมิใด ความสามารถในการละลายของสารทั้งสองชนิด
เท่ากัน และละลายได้กี่กรัม
- อุณหภูมิ 30 ° C
ความสามารถในการละลายของสารทั้งสองชนิดเท่ากัน
- ละลายได้ 34 กรัม
|
|
2) ที่อุณหภูมิ 20 ° C สารใดละลายน้ำได้มากกว่ากัน
โซเดียมคลอไรด์ ละลายน้ำได้มากกว่า โพแทสเซียมคลอไรด์
|
|
3) ที่อุณหภูมิ 52 ° C สารใดละลายน้ำได้มากกว่า
โพแทสเซียมคลอไรด์ ละลายน้ำได้มากกว่าโซเดียมคลอไรด์
|
|
4) จากกราฟให้นักเรียนอธิบายอย่างคร่าว ๆ เกี่ยวกับสารละลาย
โพแทสเซียมคลอไรด์ และโซเดียมคลอไรด์ในน้ำ 100 กรัม
ณ อุณหภูมิต่างๆ กัน
ที่อุณหภูมิ ต่ำกว่า 30 C °
โซเดียมคลอไรด์ ละลายน้ำได้มากกว่า โพแทสเซียมคลอไรด์
ที่อุณหภูมิ เท่ากับ 30 C °
โซเดียมคลอไรด์ ละลายน้ำได้เท่ากัน โพแทสเซียมคลอไรด์
ที่อุณหภูมิ มากกว่า 30 C °
โพแทสเซียมคลอไรด์ ละลายน้ำได้มากกว่า โซเดียมคลอไรด์
|
|
5) ถ้าให้โพแทสเซียมคลอไรด์ และโซเดียมคลอไรด์ ละลายในน้ำ
100 กรัม โดยเพิ่มอุณหภูมิให้มากกว่า 75 C นักเรียนคาดว่า
ความสามารถในการละลายของสารทั้งสองจะแตกต่างกันอย่างไร
จากกราฟน่าจะคาดได้ว่า
โพแทสเซียมคลอไรด์ ละลายน้ำ ได้มากกว่า โซเดียมคลอไรด์
เมื่อมีอุณหภูมิ สูงขึ้น
|
6)
|
ปัจจุบันไฟฟ้าส่วนใหญ่ทั่วโลกมีสองระบบคือ 110 โวลต์ และ
ระบบ 220 โวลต์ กราฟข้างล่างนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง
ความต้านทานเป็นโอห์ม และปริมาณกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
ได้เป็นแอมแปร์ ของระบบ 110 โวลต์ และระบบ 220 โวลต์
จากกราฟจงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) ในระบบ 110 โวลต์ ถ้าความต้านทานเป็น 10 โอห์ม
จะมีปริมาณกระแสไฟฟ้าผ่านเท่าใด
- ปริมาณกระแสไฟฟ้าผ่าน 10 แอมแปร์
|
| 2) ในระบบ 220 โวลต์ ถ้าความต้านทานเป็น 10 โอห์ม
จะมีปริมาณกระแสไฟฟ้าผ่านเท่าใด
- ปริมาณกระแสไฟฟ้าผ่านประมาณ 22 แอมแปร์
|
|
3) ถ้าความต้านทานคงที่ ระบบใดจะมีปริมาณกระแสไฟฟ้าไหล
ผ่านมากกว่า
- เมื่อความต้านทานคงที่
ระบบ 220 โวลต์ มีกระแสไฟฟ้าไหลในปริมาณมากกว่า
|
| 4) ในระบบ 110 โวลต์ ถ้ามีปริมาณกระแสไฟผ่าน 10 แอมแปร์
ต้องใช้ความต้านทานเท่าใด
ใช้ความต้านทาน 10 โอห์ม
|
|
5) ในระบบ 220 โวลต์ ถ้ามีปริมาณกระแสไฟผ่าน 10 แอมแปร์
ต้องใช้ความต้านทานเท่าใด
ใช้ความต้านทาน ประมาณ 22 โอห์ม
|
|
6) ถ้าปริมาณกระแสไฟที่ไหลผ่านคงที่ ระบบใดมีความ
ต้านทานมากกว่า
ระบบ 220 มีความต้านทานมากกว่า
|
|
7) จากกราฟของแต่ละระบบ ถ้าความต้านทานเพิ่มขึ้น
แล้วปริมาณกระแสไฟฟ้า จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ความต้านทานเพิ่มขึ้น ปริมาณกระแสไฟฟ้าลดลง
|
|
8) จากกราฟของแต่ละระบบ ถ้าปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหล
ผ่านเพิ่มขึ้น แล้วจะต้องเปลี่ยนแปลงความต้านทานอย่างไร
ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหล ผ่านเพิ่มขึ้น
แล้วจะต้องเปลี่ยนแปลงความต้านทาน ให้ลดลง
คิดให้เข้าใจง่าย ๆว่า มี
ความต้านทานมาก กระแสไฟฟ้า มีน้อย
ความต้านทานน้อย กระแสไฟฟ้า มีมาก
|
7.
|
กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณน้ำประปาที่ใช้
เป็นลูกบาศก์เมตรในหนึ่งเดือน กับจำนวนเงินที่จ่ายเป็นบาท
ของการประปาของหมู่บ้านแห่งหนึ่งเป็นดังนี้
จากกราฟจงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) ถ้าใน หนึ่งเดือนไม่มีการใช้น้ำประปาเลย จะต้อง
จ่ายค่าน้ำประปาเท่าใด
จ่ายค่าน้ำประปา 50 บาท
|
|
2) ถ้าในเดือนหนึ่งมีการใช้น้ำประปาไม่ถึง 1 ลูกบาศก์เมตร
จะต้องจ่ายค่าน้ำประปาเท่าใด
จ่ายค่าน้ำประปา 50 บาท
|
|
3) ถ้าในเดือนหนึ่งมีการใช้น้ำประปา 3 ลูกบาศก์เมตร
จะต้องจ่ายค่าน้ำประปาเท่าใด
จ่ายค่าน้ำประปา 65 บาท |
|
4) ถ้าในเดือนหนึ่งมีการใช้น้ำประปา 5.2 ลูกบาศก์เมตร
จะต้องจ่ายค่าน้ำประปาเท่าใด จ่ายค่าน้ำประปา 75 บาท
|
|
5) ถ้าในหนึ่งเดือนจ่ายค่าน้ำประปาไป 80 บาท
จงหาปริมาณที่เป็นไปได้ของน้ำที่ใช้ในเดือนนั้น
ใช้น้ำประปา 6 ลูกบาศก์เมตร
|
|
6) ถ้าในเดือนหนึ่งมีการใช้น้ำประปาตั้งแต่ 1 ลูกบาศก์เมตร
เป็นต้นไป ค่าน้ำประปาจะคิดในอัตราเดียวกันหรือไม่ จงอธิบาย มีการเก็บในอัตราก้าวหน้า ใช้มาก ก็เสียค่าน้ำประปามาก
|
8.
|
กราฟต่อไปนี้แสดงความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณสินค้าที่ผลิตได้
เป็นชิ้นต่อสัปดาห์ และต้นทุนการผลิตเป็นบาทต่อชิ้น และแสดง
ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณสินค้าเป้นชิ้น และการขาย
เป็นบาทต่อชิ้น โดยมีเงื่อนไขว่า สินค้าที่ผลิตขึ้นขายได้หมดทุกชิ้น
จากกราฟจงตอบคำถามต่อไปนี้
|
|
1) จะต้องผลิตสินค้ากี่ชิ้นจึงจะถึงจุดคุ้มทุน
จุดคุ้มทุน คือจุดที่ ราคาขายกับต้นทุนมีค่าเท่ากัน ในกราฟคือจุดตัดกัน
ของทั้งสองเส้น
จากกราฟมีจุดคุ้มทุน 2 จุด คือ
- จุดที่ผลิตสินค้า 2,000 ชิ้น
- จุดที่ผลิตสินค้า 20,000 ชิ้น
|
|
2) ถ้าผลิตสินค้าน้อยกว่า 2,000 ชิ้น
การขายสินค้าจะกำไรหรือขาดทุน
ขาดทุน เพราะมีต้นทุนสูงกว่าราคาขาย
|
|
3) ถ้าผลิตสินค้ามากกว่า 2,000 ชิ้น แต่น้อยกว่า 20,000 ชิ้น
การขายสินค้าจะกำไรหรือขาดทุน
กำไร เพราะ ต้นทุนมีค่า น้อยกว่า ราคาขาย
|
|
4) ถ้าผลิตสินค้ามากกว่า 20,000 ชิ้น
การขายสินค้าจะกำไรหรือขาดทุน
ขาดทุน เพราะ ต้นทุนมี มากกว่า ราคาขาย
|
|
5) จะต้องผลิตสินค้ากี่ชิ้น จึงจะได้กำไรต่อชิ้นสูงสุด
ผลิต 10,000 ชิ้น เพราะต้นทุนต่ำและน้อยที่สุด กับราคาขาย
|
|
6) จากกราฟให้นักเรียนอธิบายอย่างคร่าว ๆ เกี่ยวกับกำไร
หรือขาดทุน ตามจำนวนของการผลิตสินค้า
กำไรเมื่อ ราคาต่อชิ้น สูงกว่า ต้นทุน
ขาดทุนเมื่อ ราคาต่อชิ้น ต่ำกว่า ต้นทุน
จากกราฟ
ขาดทุนเมื่อมีการผลิต 0 - 2,000 ชิ้น และ 20,001 ชิ้น ขึ้นไป
กำไรเมื่อมีการผลิตในช่วง 2,001 - 19,999 ชิ้น
|